- ไปเที่ยวกาญฯ เถอะ -


กาญนะจ้ะบุรี [กาญจนบุรี] ใครๆ ก็อยากไป... สักครั้งในชีวิตก็ยังดี
แต่ไปครั้งเดียวแล้วจะติดใจ แค่ครั้งเดียวคงไม่พอ xx

เราไม่ค่อยชอบโพสต์ภาพหรืออะไรลง Social Media สักเท่าไหร่
ก็เลยจะมาเขียนบันทึกลงบล็อกแทน ซึ่งบล็อกนี้จะเป็นบล็อกแรกของเรา

ย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้ว..
ช่วงนั้นเรามีโอกาสได้ไปเที่ยวมา เป็นการเดินทางครั้งแรกที่จัดเตรียมทุกอย่างเอง
ปกติก็จะไปกับเพื่อน มีหน้าที่แค่ช่วยแชร์ค่าใช้จ่าย
แต่ครั้งนี้ด้วยความที่อยากออกไปเดินทางด้วยตัวเองแบบจริงๆ จังๆ ดูบ้าง
ก็เลยจัด Trip เองซะเลย.. หาข้อมูลต่างๆ นาๆ เอง..




เริ่มต้นจากการที่เราเสพติดธรรมชาติมากๆ แล้วก็ได้ดูซีรี่ย์เรื่อง O-Negative รักออบแบบไม่ได้ ที่แสดงโดย วี วิโอเลต 
มีอยู่ตอนนึ่งที่ปริม (วี วิโอเลต) ไปเที่ยวบ้านอาร์ท (เก้า จิรายุ) ที่เมืองกาญจนบุรี
เราดูแล้วก็แบบว่า 'สวยจัง.. น่าจะลองไปเที่ยวดูบ้าง กูเดินทางสะดวกดี' 
ก็ไม่เชิงว่าเดินตามรอยซีรี่ย์ ก็ประมาณว่าได้แรงบรรดาลใจในการไปเที่ยวจากซีรี่ย์เรื่องนี้

หลังจากนั้นมาก็หาข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองกาญฯ อยู่ประมาณระยะหนึ่ง (เป็นปีได้)
ดูภาพนู้นนี่นั่นไปเรื่อยๆ จนมาปี 2561 พอสอบปิดเทอมเสร็จก็จัด Trip ไปเที่ยวเลยจ้า xD




- LET US GO, KAN!



Kanchanaburi - Day 1 นั่งรถไฟสายมรณะ | 27 มิถุนายน 2561

การเดินทางเล็กๆ ครั้งนี้มีเพื่อนร่วมทางอยู่ 2 คน คือ 'ตะวัน' กับ 'พี่หญิง'

ขอเริ่มต้นการเดินทางที่เมืองหลวงของประเทศไทย - กรุงเทพฯ
ด้วยความที่พวกเราเป็นคนง่ายๆ อยากเดินทางแบบเรื่อยๆ
ก็เลยเลือกเดินทางไปกาญฯ โดยรถไฟ เพราะได้ยินมาว่ารถไฟสายกรุงเทพฯ(ธนบุรี)ไปกาญฯ จะพาเราผ่านสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในตัวเมืองกาญฯ


เช้าตรู่ของวันที่ 27 มิ.ย. ประมาณ 6 โมงเช้า..
เรากับเจ้หญิงเดินทางจากบุรีรัมย์มาถึงกรุงเทพฯ ประมาณตี 5
นัดเจอกันกับตะวันที่กรุงเทพฯ ตะวันชวนไปไหว้ศาลหลักเมืองก่อน
ก็เลยนัดไปเจอกันที่สนามหลวง



เราทั้ง 3 มุ่งหน้าไปที่สถานีรถไฟธนบุรี..
รถไฟสายกรุงเทพฯ(ธนบุรี)-กาญฯ เป็นรถไฟขบวนธรรมดา สายพิเศษ มี 2 รอบ คือ
- รอบเช้าประมาณ 7.40 สิ้นสุดที่สถานีน้ำตก(เมืองกาญฯ) ประมาณ 12.20
- รอบบ่ายประมาณ 13.50 สิ้นสุดที่สถานีน้ำตก(เมืองกาญฯ) ประมาณ  18.30



ระหว่างทางก็จะพบปะผู้คนมากมาย
ภาพบรรยากาศระหว่างทาง ช่วงกำลังเข้าเมืองกาญฯ
รถไฟวิ่งผ่านแม่น้ำแคว และวิ่งรอบถ้ำกระแซ ถือว่าเป็นจุดเดินของขบวนก็ว่าได้



และรถไปก็แล่นมาหยุดที่สถานีน้ำตก ก็คือน้ำตกไทรโยคนั่นเอง!
พวกเราตัดสินใจว่าจะไปเที่ยวน้ำตกกันในวันแรก
แบกทุกสิ่งอย่างที่เอามาไปด้วย ฮ่าาๆ ใจสู้กันมากๆ


ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีรถ ที่สถานีมีรถรับจ้างมากมายมาจอดรอรับส่งนักท่องเที่ยว
จะบอกว่าคนไปเที่ยวกาญฯ เยอะมากทั้งในและต่างประเทศ
ฝรั่งเต็มขบวนรถไฟ เดินกันให้หนาตาในเมืองกาญฯ


พวกเรานั่งรถสองแถวไปน้ำตกไทรโยคน้อย ราคาคนละ 20 บาท.
ใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 15 นาที
แถวๆ นั้นจะมีร้านอาหาร ของฝากต่างๆ นาๆ เต็มไปหมด ไม่ต้องกลัวอด


ข้างในก็จะประมาณนี้.. ก็ตามชื่อ 'ไทรโยคน้อย'
ก็จะไม่ค่อยมีอะไรมาก เอาจริงๆ ไปช่วงที่ไม่ค่อยมีน้ำด้วย
เจ้าหน้าที่บอก ฮ่าาาๆ xD

ก็จะชื้นนิดๆ เพราะฝนปรอยๆ
มีมุมให้แชะภาพอยู่นะ แต่เราไม่ได้ถ่ายกัน
พากันเดินๆ คุยๆ แล้วก็บ่นๆ


ส่วนขากลับเราก็กลับโดยรถไฟกันอีกเช่นเคย
รถไฟสายน้ำตก-กรุงเทพก็จะมี 2 รอบเหมือนกัน
- รอบแรกประมาณ 12.50 ถึงกรุงเทพฯ ประมาณ 17.30
- รอบสองประมาณ 13.50 แต่รอบสองจะสิ้นสุดปลายทางที่ตัวเมืองกาญฯ เท่านั้นคือ 18.50


เกร็ดความรู้: ทางรถไฟสายมรณะ สายนี้สร้างขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยใช้แรงงานเชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตรและกรรมกรชาวเอเชีย ที่กองทัพญี่ปุ่น เกณฑ์ มาสร้าง เพื่อใช้เป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ผ่านประเทศพม่า ปัจจุบันเส้นทางนี้ไปสุดปลายทางที่บ้านท่าเสาหรือสถานี น้ำตกระยะทางจาก สถานีกาญจนบุรีถึงสถานีน้ำตกเป็นระยะทางประมาณ 77 กิโลเมตร "หากนับหมอนหนุนรางรถไฟมีเท่าไหร่ จำนวนผู้คน-เชลยศึกที่ถูกเกณฑ์มาสร้าง ทางรถไฟ สายนี้ก็ตายไปเท่านั้น"  นี่คือคำเล่าขานถึงเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ ไทย-พม่า ระยะทางกว่า 415 กิโลเมตรนี้ คือ ความหฤโหด ทารุณ และยากลำบาก ของสิ่งที่เชลยศึกได้รับ จนได้รับการขนานนาม ว่า "เส้นทางรถไฟสายมรณะ"



ใครอยากลงไปถ่ายรูปที่สะพานแม่น้ำแควก็สามารถลงที่สถานีสะพานแควใหญ่ได้
แล้วนั่งรถสองแถวเข้าเมืองกาญฯ อีกที ใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที :)

น่าเสียดาย.. ที่พวกเราไม่ค่อยได้ถ่ายรูปกันเท่าไหร่
ส่วนมากก็นั่งคุยกันตลอดทาง เก็บภาพด้วยสายตา
ได้แค่มองวิว แล้วก็พูดคุยกัน ไม่มีใครหยิบกล้อง/มือถือมาถ่ายรูปสักเท่าไร
บางคนก็แบตหมด หมดตั้งแต่ยังไม่ถึงกาญฯ น่าเศร้ายิ่งนัก = ='


พอถึงสถานีกาณฯ พวกเราก็ต่อรถสองแถวเข้าที่พัก ประมาณครละ 30 หรือ 20 บาท (ถ้าจำไม่ผิด)
พวกเราพักกันที่แพริมน้ำ 'นิต้า ราฟท์เฮ้าส์ (Nita Raft House)' เป็นแพริมน้ำ ติดแม่น้ำแควอยู่ในตัวเมือง

บรรยากาศดี แนะนำสำหรับใครที่ต้องการพักในที่ที่เงียบๆ คนไม่หนาแน่น
ราคาคืนละ 600 กว่าบาท จริงๆ ก็แล้วแต่ห้อง
ถ้าห้องธรรมดาไม่ติดแอร์ก็จะราคาถูกลง
แต่เจ้าของบริการดีมาก คุณลุงกับคุณป้าใจดี เป็นกันเอง
เพือนเราชอบไปคุยกับคุณลุง เพราะคุณลุงเลี้ยงกระรอกแล้วก็รักธรรมชาติมากๆ
ที่พักรายล้อมไปด้วนต้นไม้ ไม้ประดับ ดอกไม้ต่างๆ นาๆ
ปล. ไม่มีภาพรอบๆ ที่พัก ไม่ได้พากันถ่ายเลย เดินทางเหนื่อยถึงที่พักก็เริ่มมืดแล้ว



บรรยากาศช่วงเย็นที่พวกเรามาถึงที่พักกัน.. วิวดีมาก

ท่องราตรีกับคู่หู ฮ่าาๆ เดินไปเรื่อย
ในตัวเมืองกาญฯ สาามารถเดินได้ เพราะคนเยอะ ไฟสว่างจ้ามาก
ไม่ต้องกลัวอะไรเลย จำได้ว่าพวกเราเดินแทบจะรอบตัวเมือง ฮ่าาๆ
ไม่ได้เดินเที่ยวหรอก แต่เดินหาร้านหมูกะทะกัน สรุปได้กิน McDonald's เพราะร้านหมูกะทะคนเยอะ


 

เชื่อไหมว่า.. เพื่อนตะวัน ใช้เวลายืนรอชื้อทุเรียนอยู่ประมาณเกือบ 1 ชม.
ไอ้เราก็ไม่รู้นางหายไปไหน ฮ่าาๆ สรุปกลับมาพร้อมทุเรียน 1 ลูก
เราไล่ออกไปนั่งกินคนเดียวที่ริมน้ำ เพราะข้างในมันจะเหม็น
นางก็ยอมไปนั่งตากยุง มืดๆ ริมน้ำเพื่อกินทถเรียนในตอนกลางคืน ก่อนนอน.. >O<!

สรุปคืนนั้น.. นางร้อนใน ฮ่าาาาาาาาาาาาๆ นอนห่มผ้าไม่ได้เลย เราห่มให้ นางก็ปัดทิ้งหมดคืน
เรานอนข้างๆ เราก็ร้อนไปด้วย..


วันแรกจบลงเพียงเท่านี้...
นอนหลับพักผ่อน ก่อนออกเดินทางไปน้ำตกเอราวัณกันในวันถัดไป

xx






-

Kanchanaburi - Day 2 น้ำตกเอราวัณ | 28 มิถุนายน 2561

มาเริ่มต้นวันที่สองด้วยวิวสวยๆ ยามเช้า ณ ที่พักริมแพที่เราพักกัน :))
ตื่นเช้าๆ ประมาณ 6 โมงเช้า มาสูดอากาศบริสุทธิ์ นั่งเล่นริมระเบียง

 

หลังจากนั้นพวกเราก็เดินเรื่อยๆ จากที่พักไป บขส.เมืองกาญฯ ซึ่งอยู่ห่างจากที่พักไม่ไกล
แถวๆ บขส. ก็จะมีร้านอาหาร ร้านขายของฝากต่างๆ นาๆ อีกเช่นเคย หากินได้สะดวกมากๆ


ใช้เวลาเดินแค่ไม่ถึง 10 นาที.. หลังจากนั้นก็ซื้อตั๋วรถเพื่อไปน้ำตกเอราวัณ
รถจะเขียนป้ายว่า "น้ำตกเอราวัณ" ตัวใหญ่ๆ มีหลายรอบ วิ่งทุกๆ 30 นาที


ตั๋วราคา 50/คน แต่ถ้าใครมีบัตรนักศึกษา เขาจะลดให้ครึ่ง % จำไม่ได้ว่าเท่าไร
น่าจะราวๆ 20-25 บาท เพราะเราไม่ได้พกบัตรนักศึกษาไปเลยได้จ่ายเต็มราคา ฮ่าาาๆ >O<!
ทางไปน้ำตกเอราวัณจะผ่านเขื่อนศรีนครินทร์ ซึ่งบรรยากาศดีมากๆ วิวสวยสุดๆ


อีกเช่นเคย.. ไม่มีภาพ ฮ่าาๆ เพราะพวกเราไม่ได้ถ่ายภาพกันจริงๆ เน้นชมวิวกับคุยกันตลอดทาง
ใช้เวลาไม่ถึง 1 ชม. เราก็เดินทางไปถึงน้ำตกเอราวัณ

ปล. ทุกคนกลัวดำ กลัวยุง แขนยาว ขายาว xD

เราขอไม่เรียงลำดับชั้นน้ำตก เพราะจำไม่ได้
ขอรวมภาพทั้งหมดที่ถ่ายเลยดีกว่า :))



หลังจากจบช่วงเที่ยวน้ำตก พวกเรากลับที่พักกัน แวะกินข้าวกันนิดหน่อย
แล้วก็กลับที่พัก หลับกันระนาว เหนื่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!

วันที่ 2 ของการเที่ยวกาญฯ ก็มีแค่นี้ เราไปเที่ยวที่เดียว แต่ใช้เวลาทั้งวัน
ช่วงเช้าก็จะเดินขึ้นน้ำตกได้ประมาณถึงชั้น 5 ก็พักที่จุดชมวิวกันยาวๆ
แล้วก็เดินต่อกันจนบ่าย กลับลงมาก็เกือบบ่าย 3 แล้ว
พากันนั่งชิวๆ ที่ร้านกาแฟข้างล่างกันอีก จนกว่าจะถึงที่พักก็เกือบ 6 โมง

ตอนแรกวางแผนจะไปกันหลายที่ แต่ที่ที่จะไปกัน มันไกลกันมากๆ เลยตัดสินใจกันวันนั้นเลยว่าไม่ไป

xx





-
Ayutthaya - Day 3 อยุธยา | 29 มิถุนายน 2561

และวันสุดท้ายแห่งการเดินทางก็มาถึง วันที่ 3 พวกเราตัดสินกันกลับกันแต่เช้ามืด
เพราะตั้งใจว่าจะแวะเที่ยวที่อยุธยา พวกเราก็ไปขึ้นรถกันที่ บขส.เมืองกาญฯ อีกเช่นเคย
แต่จากกาญฯ ไปอยุธยาต้องนั่งรถไปลงสุพรรณบุรีก่อน แล้วค่อยต่อรถจากสุพรรณฯ ไปอยุธยา
พวกเราก็ไปเรื่อยๆ ตามใจพวกเรา







พวกเราเลาะอยู่อยุธยากันเกือบทั้งวัน แดดก็ร้อนมาก เช่ารถมอไซต์ขับวนกัน
หลงทางอีกต่างหาก ฮ่าาๆ ในที่สุดก็กลับรถไฟรอบ 6 โมงเย็น ถึง กทม. ประมาณเกือบ 2 ทุ่ม

วันที่ 30 มิถุนายน ก่อนกลับบุรีรัมย์ 
ก็ยังพากันไปเลาะในกรุงเทพฯ อีก





THE END




ความคิดเห็น